หมวดที่ 4
โครงสร้างการดำเนินกิจการสมาคม
ข้อ 14. ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่ง ทำหน้าที่บริหารและดำเนินกิจการของสมาคม มีจำนวนอย่างน้อย 9 คน อย่างมากไม่เกิน
19 คน จำนวนนี้ให้มีกรรมการที่เป็นสมาชิกสามัญของสมาคมจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวน คณะกรรมการทั้งหมด
และให้คณะกรรมการบริหารมีตำแหน่งต่าง ๆ เพื่อทำหน้าที่ ดังต่อไปนี้
14.1 นายกสมาคม ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าในการบริหารกิจการของสมาคม เป็นผู้แทนสมาคมในการติดต่อกับบุคคล
ภายนอก และทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการและการประชุมใหญ่ของสมาคม
14.2 อุปนายก ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยนายกสมาคมในการบริหารกิจการสมาคม ปฏิบัติตามหน้าที่ที่นายกสมาคมมอบหมาย
และทำหน้าที่แทนนายกสมาคมเมื่อนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่การทำหน้าที่ของ
นายกสมาคม
ให้อุปนายกตามลำดับตำแหน่งเป็นผู้กระทำการแทน
14.3 เลขาธิการ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของสมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่ง
ของนายกสมาคม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม
14.4 เหรัญญิก มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดของสมาคมเป็นผู้จัดทำบัญชีรายรับ รายจ่าย บัญชีงบดุลของสมาคม
และเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆของสมาคมไว้เพื่อตรวจสอบ
14.5 นายทะเบียน มีหน้าที่เกี่ยวกับทะเบียนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม ประสานงานกับเหรัญญิกในการเรียกเก็บเงิน
ค่าบำรุงสมาคมจากสมาชิก
14.6 ปฏิคม มีหน้าที่ในการให้การต้อนรับแขกของสมาคม เป็นหัวหน้าในการจัดเตรียมสถานที่ของสมาคม และจัดเตรียม
สถานที่ประชุมต่างๆของสมาคม
14.7 ประชาสัมพันธ์ มีหน้าที่เผยแพร่กิจการและชื่อเสียงเกียรติคุณของสมาคมให้สมาชิกและบุคคลทั่วไปได้
เป็นที่รู้จักแพร่หลาย
14.8 กรรมการตำแหน่งอื่น ๆ ตามความเหมาะสมซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรกำหนดให้มีขึ้นโดยมีจำนวนเมื่อรวมกับ
ตำแหน่งกรรมการตามข้างต้นแล้ว จะต้องไม่เกินที่ข้อบังคับ สมาคมข้อ 14 วรรค 1 ได้กำหนดไว้ แต่ถ้าคณะกรรมการ
มิได้กำหนดตำแหน่ง ก็ถือว่าเป็นกรรมการกลาง
ข้อ 15. กรรมการของสมาคมจะต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
15.1 มีสัญชาติไทย
15.2 มีคุณสมบัติหรือประสบการณ์เหมาะสมกับการดำเนินกิจการเกี่ยวกับกีฬาหรือการส่งเสริมกีฬา ภายในกรอบ
วัตถุประสงค์ของสมาคม
15.3 ไม่เป็นหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลาย
15.4 ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
15.5 ไม่เคยได้รับโทษจำคุกพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท
หรือความผิดลหุโทษ
15.6 ไม่เป็นผู้ที่คณะกรรมการของสมาคมมีมติให้ออกจากกรรมการ หรือคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย
มีมติเห็นสมควรให้พ้นจากตำแหน่งกรรมการของสมาคมอันเนื่องมาจากไม่ปฏิบัติ ตามข้อบังคับ หรือกระทำการใดๆ
ที่นำความเสื่อมเสียมาสู่สมาคม
ข้อ 16. คณะกรรมการบริหารได้มาจากวิธีการ ดังต่อไปนี้
นายกสมาคมต้องมาจากการเลือกตั้ง และการเลือกตั้งให้ถือปฏิบัติโดยที่ประชุมเลือกตั้งประธานชั่วคราวเพื่อดำเนินการ
ประธานชั่วคราวมีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติและสมาชิกที่ถูกต้องและมีสิทธิลงคะแนนโดยผ่านนายทะเบียน ให้ที่ประชุมใหญ่
ทำการเลือกตั้งนายกสมาคม โดยสมาชิกสมาคมในที่ ประชุมเป็นผู้เสนอชื่อ ผู้ที่จะเข้ารับเลือกเป็นนายกสมาคมและต้องมีสมาชิก
รับรองอย่างน้อยห้าคน ซึ่งผู้ถูกเสนอชื่อจะอยู่ในที่ประชุมหรือไม่ก็ได้แต่บุคคลที่ถูกเสนอชื่อหากไม่อยู่ในที่ประชุมจะต้องมี
หนังสือตอบรับเป็นลายลักษณ์อักษร การเลือกตั้งโดยวิธีเปิดเผยหรือโดยวิธีอื่นตามมติส่วนใหญ่ของผู้มีสิทธิลงคะแนนและ
ให้ถือว่าผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นนายกสมาคม และนายกสมาคมดำเนินการสรรหากรรมการ
บริหารตามที่กำหนดในข้อ 14. เมื่อทำการแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารสมาคมเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้เลขาธิการสมาคมแจ้งให้
การกีฬาแห่งประเทศไทยทราบไม่เกินหนึ่ง เดือนนับแต่มีการแต่งตั้ง และต้องแจ้งให้สมาชิกได้ทราบพร้อมกับประกาศไว้
ณ ที่ทำการสมาคมเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน และต้องนำแจ้งจดทะเบียนกรรมการบริหารสมาคมต่อนายทะเบียนท้องที่
ที่สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ภายในสามสิบวัน เมื่อได้ใบสำคัญแสดงการจดทะเบียนแต่งตั้งกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุด
หรือการเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม(สค. 6) แล้ว ให้แจ้งต่อการกีฬาแห่งประเทศไทยภายในเจ็ดวัน
ข้อ 17. คณะกรรมการของสมาคมอยู่ในตำแหน่งได้คราวละ 2 ปี นับจากวันที่ได้จดทะเบียน และอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้
การดำรงตำแหน่งกรรมการของสมาคมเกินสองวาระติดต่อกัน จะกระทำได้ก็ต่อเมื่อกรรมการผู้นั้นได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
กรรมการของสมาคมต่อไป ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า สามในสี่ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสมาคม แต่ทั้งนี้กรรมการผู้นั้น
จะดำรงตำแหน่งกรรมการของสมาคมติดต่อกันเกิน 4 วาระมิได้ และเมื่อคณะกรรมการอยู่ในตำแหน่งครบกำหนดตามวาระแล้ว
แต่คณะกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจากทางราชการก็ให้คณะกรรมการที่ครบกำหนดตามวาระรักษาการ
ไปพลางก่อนจนกว่าคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนจาก ทางราชการ และเมื่อคณะกรรมการชุดใหม่ได้รับ
อนุญาตให้จดทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้สมาคมมีหน้าที่แจ้งให้การกีฬาแห่งประเทศไทยทราบพร้อมแนบเอกสารสำคัญ
ภายในเจ็ดวันให้ทำการส่งและรับมอบงานกันระหว่างคณะกรรมการชุดเก่าและคณะกรรมการชุดใหม่ให้เป็นที่เสร็จสิ้นภายใน
สามสิบวันนับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการชุดใหม่ได้รับอนุญาตให้จดทะเบียนความในวรรคหนึ่ง มิให้บังคับ สำหรับกรณีที่กรรมการ
ของสมาคมดำรงตำแหน่งในสมาคม หรือองค์กรกีฬาระหว่างประเทศ ที่สมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยนั้นเป็นสมาชิก
ทั้งนี้ตราบเท่าที่ยังดำรงตำแหน่งในสมาคมหรือองค์กรกีฬาระหว่างประเทศดังกล่าว
ข้อ 18. ถ้าตำแหน่งกรรมการสมาคมต้องว่างลงก่อนครบกำหนดตามวาระก็ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิก คนใดคนหนึ่ง
ที่เห็นสมควรให้ดำรงตำแหน่งแทนตำแหน่งที่ว่างลงนั้น แต่ผู้ดำรงตำแหน่งแทนอยู่ใน ตำแหน่งได้เท่ากับวาระของผู้ที่ตนแทน
เท่านั้น การแต่งตั้งคณะกรรมการของสมาคมขึ้นใหม่ทั้งชุดหรือ การเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคมให้กระทำตามข้อบังคับ
ของสมาคม และสมาคมต้องนำไปจดทะเบียน ต่อนายทะเบียนแห่งท้องที่ที่สำนักงานใหญ่ของสมาคมตั้งอยู่ภายในสามสิบวัน
นับแต่มีการแต่งตั้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมการของสมาคม และต้องแจ้งให้การกีฬาแห่งประเทศไทย ทราบพร้อมแนบหลักฐาน
ภายในเจ็ดวัน นับตั้งแต่นายทะเบียนรับจดทะเบียน
ข้อ 19. ในกรณีที่ตำแหน่งนายกสมาคมว่างลง ให้คณะกรรมการบริหารสมาคมพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และให้ทำการเลือกตั้ง
นายกสมาคมภายใน สี่สิบห้าวัน
ข้อ 20. กรรมการบริหารจะต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุดังต่อไปนี้
20.1 ตาย
20.2 ถึงคราวออกตามวาระ
20.3 ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหาร
20.4 ขาดจากสมาชิกภาพ
20.5 ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้พ้นจากตำแหน่งเป็นรายบุคคลหรือทั้งคณะด้วยคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่าสองในสามของ
สมาชิกทั้งหมด
20.6 ขาดการประชุมคณะกรรมการบริหารติดต่อกัน 3 ครั้ง โดยไม่มีเหตุอันสมควร
ข้อ 21. กรรมการบริหารคนใดประสงค์จะลาออกจากการเป็นกรรมการบริหาร ให้ยื่นใบลาออกต่อนายกสมาคม
และให้นายกสมาคมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร เพื่อพิจารณาอนุมัติโดยกรรมการบริหาร ผู้นั้นไม่มีสิทธิในการ
ออกเสียงลงมติการพ้นจากตำแหน่งให้นับแต่วันที่คณะกรรมการบริหาร ได้ลงมติ
ข้อ 22. สมาคมต้องดำเนินการให้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารเดือนละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อย เพื่อพิจารณาวาระ
เรื่องการบริหารสมาคมการกำหนดวันประชุมให้นายกสมาคมเป็นผู้กำหนดและให้เลขาธิการเป็นผู้แจ้งกำหนดการประชุม
ให้กรรมการบริหารได้ทราบ โดยแจ้งเป็นหนังสือพร้อมระเบียบวาระการประชุมและให้ปิดประกาศไว้ ณ สำนักงานสมาคม
ไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ข้อ 23. ในการประชุมคณะกรรมการบริหารจะต้องมีกรรมการบริหารเข้าร่วมประชุมอย่างน้อยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมด
จึงจะถือว่าครบองค์ประชุม มติต่างๆในการประชุมถ้าข้อบังคับมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นก็ให้ถือคะแนนเสียงข้างมากเป็นเกณฑ์
แต่ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันก็ให้ประธานในที่ประชุมเป็นผู้ชี้ขาด
ข้อ 24. ในการประชุมคณะกรรมการบริหาร หากนายกสมาคมและอุปนายกสมาคมไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
ก็ให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารเลือกกรรมการบริหารคนใดคนหนึ่งซึ่งอยู่ในที่ ประชุมนั้นทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม
ในคราวนั้น
ข้อ 25. คณะกรรมการบริหารมีอำนาจและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
25.1 มีอำนาจบริหารกิจการของสมาคมเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเพื่อประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
ให้มีอำนาจตั้งชมรมกีฬาที่ขึ้นต่อสมาคม
25.2 มีอำนาจในการออก กฎ ระเบียบ คำสั่ง หรือประกาศ เพื่อให้สมาชิกได้ปฏิบัติตาม กฎ ระเบียบ คำสั่ง หรือประกาศ
ที่ออกมาต้องไม่ขัดต่อข้อบังคับของสมาคม
25.3 มีอำนาจจัดสรรงบประมาณ อุปกรณ์ และอื่น ๆ ให้แก่สมาชิกของสมาคมเพื่อดำเนินกิจการของสมาคม
25.4 มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ช่วยปฏิบัติงานในกิจการของสมาคมโดยได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างหรือค่าป่วยการ
ตามที่เห็นสมควร และมีอำนาจถอดถอนเจ้าหน้าที่
25.5 มีอำนาจลงโทษ ลบชื่อสมาชิกออกจากสมาคม เนื่องจากสมาชิกนั้นประพฤติตนในทางที่เสื่อมเสียมาสู่สมาคม
25.6 มีอำนาจลงโทษเจ้าหน้าที่ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน ผู้ตัดสิน/ผู้ชี้ขาดที่ฝ่าฝืนหรือละเมิดประกาศข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง
ของสมาคมจนทำให้เกิดความเสียหายแก่สมาคมและประเทศชาติ
25.7 รักษาระเบียบ ข้อบังคับของสมาคมกีฬาให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558
และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
25.8 แต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษา คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานเพื่อให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
จะเป็นการแต่งตั้งชั่วคราวหรือเพื่อให้ปฏิบัติกิจการงานใดงานหนึ่งจนสำเร็จก็ได้ แต่จะต้องไม่เกินวาระของ
คณะกรรมการบริหารที่ได้แต่งตั้ง
25.9 มีหน้าที่จัดประชุมคณะกรรมการบริหารเดือนละ 2 ครั้ง เป็นอย่างน้อยเพื่อหารือเกี่ยวกับการบริหารกิจการ
ของสมาคม
25.10 แต่งตั้งหรือถอดถอนเจ้าหน้าที่หรือพนักงานของสมาคม
25.11 มีอำนาจเรียกประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือประชุมใหญ่วิสามัญ
25.12 รับผิดชอบในการบริหารกิจการของสมาคม รวมทั้งการเงินและทรัพย์สินทั้งหมดของสมาคม
25.13 มีหน้าที่จัดทำเอกสาร และเก็บเอกสารที่เกี่ยวกับการบริหารทะเบียนสมาชิกของสมาคม ซึ่งพร้อมที่จะให้
สมาชิกตรวจดูได้เมื่อได้รับการร้องขอ
25.14 มีหน้าที่จัดทำบันทึกรายงานการประชุมต่าง ๆ ของสมาคมเพื่อจัดส่งให้กรรมการบริหาร สมาชิก และหน่วยงาน
ราชการรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณี ซึ่งเกี่ยวข้องกับบุคคลดังกล่าว พร้อมทั้งจะต้องเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ต่อไปด้วย
25.15 มีหน้าที่จัดประชุมใหญ่วิสามัญ ตามคำร้องขอของสมาชิกตามข้อ 12.7 ซึ่งจะต้องจัดให้มีการประชุมใหญ่
วิสามัญขึ้นภายในสามสิบวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือร้องขอ
25.16 มีหน้าที่อื่น ๆ ตามที่ข้อบังคับกำหนดไว้